7 เหตุผลที่คุณควรเลือกใช้ Supermicro MicroCloud

หลังจากงาน World Hosting Day ได้ผ่านไป ก็มีคนสนใจเข้ามามากมายเกี่ยวกับตัว Supermicro MicroCloud ซึ่งจากการที่ได้ลองพูดคุยกับผู้ที่สนใจหลายๆ ท่าน เราก็ได้ข้อสรุปถึงเหตุผลที่คุณควรเลือกใช้ Supermicro MicroCloud ครับ

1. ประหยัดพื้นที่

เหตุผลอันดับหนึ่งเลยครับที่ทำให้ Supermicro MicroCloud แตกต่างจาก Server ทั่วๆ ไป คือการประหยัดพื้นที่ โดยถ้าเทียบกับการลงทุน Server ทั่วๆ ไป ขนาด 1U จำนวน 8 เครื่อง ซึ่งจะใช้พื้นที่มากถึง 8U แล้ว Supermicro MicroCloud เพียงชุดเดียว ก็จะทำให้คุณมี Server จำนวน 8 เครื่องได้ในพื้นที่เพียง 3U เท่านั้น ก็จะทำให้คุณประหยัดค่าใช้จ่ายในการวาง Rack ตาม Colocation ได้เกินกว่า 10,000 บาทต่อหนึ่งเดือน และมากกว่า 120,000 บาทต่อปีเลยทีเดียว!

นอกจากประเด็นด้านประหยัดพื้นที่แล้ว MicroCloud ยังมีน้ำหนักเบากว่า Server 8 เครื่องรวมกันอีกด้วย

2. ได้ใช้ CPU ใหม่ล่าสุด

Supermicro MicroCloud ใช้ CPU Intel E3 ซึ่งเป็น CPU แบบ Uni Processor รุ่นล่าสุดจาก Intel โดยมีทั้งรุ่นประสิทธิภาพสูง และรุ่นประหยัดพลังงานให้เลือกใช้ตามแต่จะต้องการ และเมื่อเปรียบเทียบประสิทธิภาพกับ CPU Uni Processor ซีรีส์ก่อนอย่าง Intel X3400/3500/3600 แล้ว ก็ถือว่ามีความเร็วสูงกว่าเดิมมาก และรองรับเทคโนโลยี Virtualization เพิ่มขึ้นด้วย ในราคาที่แทบจะไม่แตกต่างจาก CPU รุ่นเก่าเลย

3. Redundant Power Supply

Server 1U ที่นิยมกันทั่วไปในท้องตลาดนั้น มักจะเป็นแบบ Single Power Supply ซึ่งหมายความว่าถ้าเกิด Power Supply Failure ขึ้นมาเมื่อไหร่ ระบบจะต้องมี Downtime เกิดขึ้นทันทีหลายชั่วโมง หรือหลายวันในกรณีที่ของขาด Stock แต่ MicroCloud นั้นจะทำให้ Server ทั้ง 8 เครื่องของคุณมี Redundant Power Supply ร่วมกันทุกเครื่อง ทำให้ระบบของคุณมีความทนทานมากขึ้น และมี Downtime น้อยลง

นอกจากนี้ Redundant Power Supply ที่ติดตั้งมากับ Supermicro MicroCloud นั้น ยังได้รับ 80PLUS Platinum Certified ซึ่งหมายถึงการมี Power Efficiency สูงสุดถึง 94% เทียบเท่ากับ Blade Server รุ่นสูงสุดในตลาดหลายๆ เจ้าอีกด้วย และเมื่อเปรียบเทียบกับ Server ทั่วๆ ไปที่เราใช้กันแล้ว Supermicro MicroCloud อาจมี Loss น้อยกว่า Server ทั่วไปถึง 2-3 เท่า ทำให้ประหยัดค่าใช้จ่ายทางด้านไฟฟ้าลงไปได้อีกมากเลยทีเดียว

4. Hot-Swap ทุกส่วน

Server 1U ทั่วๆ ไปนั้นมักจะไม่สามารถทำ Hot-Swap ได้ ทำให้เมื่อ Hard Disk หรือ Power Supply มีการเสียหาย ระบบจะต้อง Down ทันที ในขณะที่ Supermicro MicroCloud นั้นสามารถ Hot-Swap ได้ทุกส่วน ไม่ว่าจะเป็น Hard Disk, Power Supply หรือแม้แต่ Mainboard ก็ตาม ทำให้ผู้ดูแลระบบสามารถทำ Hardware Maintenance ได้ทันทีโดยไม่ต้องเกิด Downtime ของระบบอันเนื่องมาจาก Hardware เลย

5. IPMI

แต่เดิมเมื่อจะทำการติดตั้งระบบปฏิบัติการณ์ หรือระบบมีปัญหา ผู้ดูแลระบบจะต้องเดินทางเข้าไปที่ IDC และเข้าไปที่หน้าเครื่อง เพื่อทำการต่อจอ/คีย์บอร์ด/เมาส์, ต่อ External DVD, เสียบ USB และอื่นๆ อีกมากมาย ในขณะที่ Supermicro MicroCloud ได้ติดตั้งระบบ IPMI ให้กับ Server ทุกเครื่อง ทำให้เราสามารถทำ KVM ผ่านทาง IP ได้, Mount CD,DVD และ USB ผ่านทาง IP ได้, สั่งเปิด/ปิดเครื่องผ่านทาง IP ได้ รวมถึงสามารถปรับแก้ไขค่า BIOS, ลงระบบปฏิบัติการณ์ และใช้งานหน้าจอของ Server ผ่านทาง IP แบบ Real Time ได้ทันที ทำให้ผู้ดูแลระบบสามารถทำงานได้ง่ายขึ้น รวดเร็วขึ้น และลด Downtime ของระบบให้น้อยลงได้อีกด้วย

6. Boot from SAN

ในยุคที่เทคโนโลยี Virtualization และ Cloud กำลังมาแรง Supermicro MicroCloud เองก็ตอบสนองแนวทางนี้โดยการรองรับการ Boot ผ่าน IP มาให้ ทำให้ Supermicro MicroCloud สามารถทำงานร่วมกับ Network SAN Storage ได้เป็นอย่างดี ทำให้ระบบทั้งหมดมี IOPS มากขึ้นโดยใช้ Hard Disk และ Cache ร่วมกันบน SAN Storage ส่งผลให้ประสิทธิภาพรวมของระบบดีขึ้นนั่นเอง

7. 2 4 Gigabit Ethernet Interfaces

ด้วยขนาดที่เล็กและมีความยืดหยุ่นสูง Supermicro MicroCloud จึงถูกออกแบบมาให้สามารถเลือกใส่ Option Gigabit Ethernet เข้าไปได้ โดยเริ่มต้น MicroCloud Server แต่ละ Node จะมี Gigabit Ethernet มาให้ 2 พอร์ต และสสามารถเลือกใส่ Option เองเพิ่มได้อีก 2 พอร์ต ตอบสนองต่อการทำงานร่วมกับ SAN Storage และ Cloud System ได้เป็นอย่างดี

ด้วยเหตุผลทั้งหมด 7 ข้อนี้ ทำให้ Supermicro MicroCloud ขาดตลาดทั้งโลกมาแล้วในช่วงที่เปิดตัว และในวันนี้หากมีผู้ใดสนใจระบบนี้อีก ก็สามารถเข้าไปศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.supermicro.com/MicroCloud/ เลยนะครับ 😀

———-

บทความโดย Throughwave Thailand

ท่านสามารถติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ https://www.throughwave.co.th