Posts

Nutanix ประกาศรองรับการทำงานร่วมกับ Brocade VDX Switch แล้ว

Brocade ผู้ผลิต Switch สำหรับองค์กรชั้นนำ ได้รับการรับรองในโครงการ Nutanix Ready Validation เพื่อรองรับแล้วว่า Nutanix Xtreme Computing Platform (XCP) ซึ่งเป็นระบบ Hyperconverged Infrastructure ชั้นนำ สามารถทำงานร่วมกับ Brocade VDX Switch และ Brocade VCS Fabric เพื่อรองรับการทำ Virtualization, Virtual Desktop Infrastructure (VDI) และ Big Data Analytics ได้แล้ว Read more

Nutanix เตรียมเปิดเปิดตัว Community Edition บน Cloud ให้ผู้ใช้งานและนักพัฒนาเข้าถึงและทดลองใช้ Nutanix ได้ง่ายขึ้น

nutanixlogo

The Register ได้รายงานว่าได้รับข่าวจากทาง Nutanix ว่าอีกไม่นานนี้ระบบ Hyper-Converged Infrastructure ของ Nutanix จะเปิดให้ใช้งานแบบ Community Edition ได้บนบริการ Cloud ชั้นนำอย่าง Amazon Web Services และ Google Cloud Platform เพื่อให้ภาคการศึกษา, ผู้ใช้งานทั่วไป และนักพัฒนาได้ทดลองใช้งานเทคโนโลยีของ Nutanix ได้อย่างง่ายดาย และทำให้ระบบงานต่างๆ มีความเร็ว, ความทนทาน และการบริหารจัดการพื้นที่จัดเก็บข้อมูลที่คุ้มค่ายิ่งขึ้น Read more

Nutanix เปิดตัว Security Development Lifecycle เพิ่มความปลอดภัยและการทำ Compliance ให้ Virtual Computing Platform

Nutanix ผู้ผลิตระบบ Virtual Computing Platform สำหรับ Web-Scale Infrastructure ได้ประกาศเปิดตัวความสามารถในการทำ Security Development Lifecycle (SecDL) สำหรับรักษาความปลอดภัยให้แก่ Virtualization Infrastructure บน Nutanix Appliance เพิ่มเติม ดังนี้

  • พัฒนา Software โดยทำการเพิ่ม Security Development ลงไปใน Software Development Process พร้อม Automated Testing สำหรับ Security โดยเฉพาะ
    Release Minor Patch สำหรับ Security ถี่ขึ้น
  • รองรับ Self-encrypting Drives เพื่่อเข้ารหัสข้อมูลที่ Inactive อยู่ ทำให้สามารถรองรับมาตรฐานความปลอดภัย FIPS 140-2 Level 2, NSA Suite B, Common Criteria EAL2+, NIST-SP800-131A, HIPAA, PCI-DSS, SOX และอื่นๆ
  • รองรับการยืนยันตัวตนแบบ Two-factor Authentication และรองรับการยืนยันตัวตนด้วย Certificate เพื่่อเพิ่มความปลอดภัยในการยืนยันตัวตนเข้าระบบบริหารจัดการ
    Nutanix Cluster Shield เพิ่มความปลอดภัยในการเข้าบริหารจัดการ Nutanix Cluster จากการ Login ทาง Shell

โดยความสามารถเหล่านี้เพิ่มขึ้นมาใน Nutanix Operating System (NOS) 4.1 โดยการรองรับ Self-encrypted Drives นี้จะรองรับเฉพาะใน Nutanix NX-3000 และ NX-6000 เท่านั้น

2014-12-25_151419

สำหรับผู้ที่สนใจ สามารถติดต่อตัวทรูเวฟได้ที่ 02-210-0969

ข้อมูลเพิ่มเติม
Nutanix Security Development Lifecycle Website https://www.nutanix.com/security/
Nutanix Security Technical Brief https://go.nutanix.com/rs/nutanix/images/Security%20Technical%20Brief.pdf
Nutanix Key Management for Encryption Solution Brief https://go.nutanix.com/rs/nutanix/images/Key-Management-for-Encryption-Solution-Brief.pdf

โรงพยาบาลสงขลานครินทร์เลือกนูทานิกซ์สร้าง ศักยภาพ BYOD ทีมแพทย์

โรงพยาบาลสงขลานครินทร์เลือกนูทานิกซ์สร้าง ศักยภาพ BYOD ทีมแพทย์
เอื้อประโยชน์การรักษาและให้คำปรึกษาทางการ แพทย์ได้จากทุกที่ ทุกเวลา

กรุงเทพฯ 29 ตุลาคม 2557: นูทานิกซ์ ผู้ให้บริการเว็บ-สเกล ที่ผสานรวมโครงสร้างพื้นฐานด้านไอทีสำหรับองค์กรขนาดกลางและขนาดใหญ่ ได้รับเลือกจากโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ ซึ่งเป็นผู้นำการให้บริการทางการแพทย์ใน 14 จังหวัดภาคใต้ ให้ติดตั้ง Nutanix™ Virtual Computing Platform  เพื่อสนับสนุนการทำงานของโซลูชั่น VMware  เพื่อการทำงานแบบเวอร์ชวลไลซ์เซชั่น (VDI)  อย่างสมบูรณ์แบบให้กับทีมแพทย์ สนองความต้องการการทำงานแบบโมบิลีตี้ และเสริมศักยภาพทีมแพทย์ของโรงพยาบาลฯ

โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ เปิดให้บริการเมื่อปี พ.ศ. 2525 เป็นส่วนหนึ่งของมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์  นอกจากจะเป็นผู้นำในการให้บริการทางการแพทย์ให้กับประชาชนในจังหวัดภาคใต้ แล้ว ยังเป็นศูนย์กลางด้านการแพทย์ เป็นโรงเรียนและแหล่งเรียนรู้ทางการแพทย์ และเป็นสถานที่ทำวิจัยของบุคลากรสาขาวิทยาศาสตร์สุขภาพต่างๆ อีกด้วย เป็นโรงพยาบาลขนาด 853 เตียง ปัจจุบันมีแพทย์กว่า 700 คน รองรับผู้มาใช้บริการผู้ป่วยนอกวันละกว่า 3,500 คน

0001รองศาสตราจารย์ นายแพทย์ ธีรสาส์น คีรีรัฐนิคม รองคณบดีฝ่ายเวชสารสนเทศ โรงพยาบาลสงขลานครินทร์  กล่าวว่า “ทางโรงพยาบาลมีแนวคิดที่จะนำ BYOD มาใช้ให้เป็นประโยชน์  เพราะทีมแพทย์ของโรงพยาบาลมีความท้าทายด้านการให้บริการทางการแพทย์ ด้วยบทบาทและหน้าที่ของโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ นอกจากจะให้บริการทางการแพทย์กับประชาชนในจังหวัดภาคใต้แล้ว ยังเป็นศูนย์กลางด้านการแพทย์ เป็นโรงเรียนและแหล่งเรียนรู้ทางการแพทย์ และเป็นสถานที่ทำวิจัยของบุคลากรสาขาวิทยาศาสตร์สุขภาพต่างๆ อีกด้วย  ทำให้ทีมแพทย์ต้องการระบบสารสนเทศที่อำนวยความสะดวกให้สามารถให้คำปรึกษาทาง การแพทย์และการรักษาได้จากทุกที่ และตลอดเวลา  แพทย์ของเรามีอุปกรณ์ไอทีโมบิลิตี้อยู่แล้ว สิ่งที่เราต้องการคือทำให้ทีมแพทย์สามารถใช้ระบบอินทราเน็ทและเข้าถึงแอพพลิ เคชั่น ‘Hospital Information System’ ซึ่งเป็นระบบที่เราพัฒนาเองได้จากทุกที่และ ตลอดเวลา  ในปัจจุบันมีแพทย์ประมาณ 100-120 ท่านต่อวันที่เข้าใช้งานผ่าน Nutanix™ Virtual Computing Platform เพื่อเข้าไปดูเวชระเบียนคนไข้”

นายโกเมน เรืองฤทธิ์ นักวิชาการคอมพิวเตอร์ โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ เสริมว่า “เราได้รับคำแนะนำจากที่ปรึกษาการวางระบบไอที ของโรงพยาบาลคือบริษัททรูเวฟ ให้ใช้  Nutanix™ Virtual Computing Platform ซึ่งสามารถทำงานกับระบบเวอร์ชวลไลซ์เซชั่นที่ เชื่อมต่อแอพพลิเคชั่น ‘Hospital Information System’ พัฒนาบน Window XP ได้เป็นอย่างดี  เราใช้เวลาในการติดตั้งเพียง 2-3 วันเท่านั้น  และการใช้งานก็ง่าย ทรูเวฟมีความเข้าใจความต้องการและรูปแบบการให้บริการของโรงพยาบาล ทำให้ทีมแพทย์ของเราสามารถเข้าถึงข้อมูลการรักษาพยาบาล ของโรงพยาบาลได้จากทุกที่ ทุกเวลา ทำให้สามารถให้บริการและคำปรึกษาทางการแพทย์ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น โซลูชั่นของนูทานิกซ์ลดความซับซ้อนการเข้าถีงระบบและแอ พพลิเคชั่น ด้วยความง่ายนี้ทำให้ยูสเซอร์ของเราสามารถใช้งานเองได้ จากการอ่านวิธีการใช้ผ่านเว็บบอร์ดของโรงพยาบาล และขณะนี้เรากำลังทดลองการทำงานแบบ Zero Client เพื่อการขยายการทำงานแบบเวอร์ชวลไลซ์เซชั่น ไปยังทีมงานอื่นๆ ในโรงพยาบาลต่อไป”

0002

นายทวิพงศ์ อโนทัยสินทวี ผู้จัดการ นูทานิกซ์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า “ปัจจุบัน การนำ BYOD มาใช้ในการให้บริการเป็นไปอย่างกว้างขวางมาก ยิ่งขึ้น เนื่องจากองค์กรต้องการให้เกิดการทำงานได้จากทุกที่ และตลอดเวลา สำหรับทีมแพทย์ของโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ ไม่ว่าพวกเขาเหล่านั้นจะอยู่ที่ไหนก็ตาม  ความสามารถในการให้คำปรึกษาทางการแพทย์มีความจำเป็น และการสามารถเชื่อมต่อกับข้อมูลของโรงพยาบาลได้ตลอดเวลา จากสมาร์ทโฟน แท็บเล็ตหรือโน้ตบุ๊ค นับเป็นหัวใจสำคัญของการให้บริการทางการแพทย์”
0003

เกี่ยวกับนูทานิกซ์
นูทานิกซ์เป็นผู้ให้บริการเว็บ-สเกล ที่ผสานรวมโครงสร้างพื้นฐานด้านไอทีสำหรับองค์กรขนาดกลางและขนาดใหญ่ด้วยแพ ลทฟอร์มการประมวลผลที่ขับเคลื่อนด้วยซอฟต์แวร์ ที่ผสานรวมการประมวลผลและระบบสตอเรจเข้าเป็นหนึ่งโซลูชั่นเพื่อผลักดันให้ เกิดการใช้งานอย่างเรียบง่ายในศูนย์ข้อมูล  ลูกค้าสามารถเริ่มต้นใช้เทคโนโลยีนี้ได้จากเซิร์ฟเวอร์จำนวนน้อย และขยายไปได้จนถึงระดับพันเซิร์ฟเวอร์  ทั้งยังสามารถคาดการณ์ประสิทธิภาพที่จะได้รับ และเงินลงทุนหรือค่าใช้จ่าย ด้วยสิทธิบัตรด้านการขยายของข้อมูลและการบริหารระดับผู้ใช้บริการ นูทานิกซ์นับเป็นพิมพ์เขียวสำหรับผู้ต้องการใช้งานแอพพลิ เคชั่นให้ได้ประโยชน์สูงสุด และในโครงสร้างพื้นฐานที่ขับเคลื่อนด้วยนโยบาย ร่วมเรียนรู้นูทานิกซ์เพิ่มเติมได้ที่  www.nutanix.com หรือติดตามได้ที่ Twitter @nutanix

นูทานิกซ์ เป็นเครื่องหมายการค้าของ นูทานิกซ์ อิงค์ เครื่องหมายการค้าและเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนอื่นๆ เป็นทรัพย์สินของเจ้าของผลิตภัณฑ์นั้นๆ

Nutanix เปิดตัว NX-9000 All-Flash Hyper-Converged Platform พร้อม Metro Availability สำหรับทำ Disaster Recovery ระยะห่างกว่า 400KM

Nutanix ผู้ผลิตระบบ Web-Scale Converged Infrastructure ชั้นนำ ได้เปิดเผยสองเทคโนโลยีใหม่ภายใต้ผลิตภัณฑ์ Virtual Computing Platform เพื่อตอบสนองการสร้าง Infrastructure สำหรับระบบ Application ที่ต้องการประสิทธิภาพและความทนทานในระดับสูงโดยเฉพาะ โดยได้เปิดตัว Nutanix NX-9000 Appliance ซึ่งเป็น All-Flash Hyper-Converged Platform ตัวแรกของวงการ รองรับงานที่ต้องการความเร็วเป็นพิเศษ พร้อมเปิดตัว Metro Availability เพื่อรองรับการทำ Disaster Recovery ด้วย Nutanix ระหว่างสาขาขององค์กรอีกด้วย

All-Flash NX-9000 Nutanix Appliance
เพื่อรองรับความร้อนแรงของตลาด All Flash Array/All Flash Storage ทาง Nutanix จึงได้ออก Nutanix NX-9000 ซึ่งเป็น Hyper-Converged Platform ที่ใช้ดิสก์แบบ Flash ทั้งหมด ตอบโจทย์ของระบบฐานข้อมูลสำหรับงาน Online Transaction Processing (OLTP) โดยเฉพาะ ซึ่งระบบซอฟต์แวร์กลุ่มนี้ไม่เพียงต้องการประสิทธิภาพในระดับสูงมากเท่านั้น แต่ยังต้องการ I/O Latency ที่ต่ำอย่างสม่ำเสมออีกด้วย นอกจากนี้ด้วยเทคโนโลยีการทำ Scale-Out Compression และ Deduplication ของ Nutanix เองก็ยังคงช่วยให้การใช้งานพื้นที่ของ Flash Storage เป็นไปอย่างคุ้มค่ามากยิ่งขึ้น ทำให้ไม่เกิดปัญหาคอขวดทางด้านประสิทธิภาพและพื้นที่ใช้งานอีกด้วย

นอกเหนือจากความคุ้มค่าในการใช้งาน และความง่ายในการออกแบบและติดตั้งระบบแล้ว ยังมีจุดที่ Nutanix เหนือกว่า All-Flash Array อื่นๆ ดังนี้

  • การเพิ่มขยายแบบ Scale-Out ได้อย่างแท้จริง (True Scale-Out Storage) – ผู้ใช้งาน Nutanix สามารถเพิ่มพื้นที่จัดเก็บข้อมูลและประสิทธิภาพการทำงานของระบบทั้งหมดได้พร้อมๆ กันแบบไม่มี Down Time ด้วยการเพิ่ม Node เข้าไป โดยระบบทั้งหมดจะยังคงมีเพียง Datastore เดียวซึ่งสามารถเพิ่มขยายได้อย่างไร้ขีดจำกัด
  • ประสิทธิภาพการใช้งานที่สูงกว่า (More Efficient Performance) – ด้วยการใช้งาน Nutanix Hyper-Converged Architecture ข้อมูลที่มีการใช้งานบนแต่ละ VM จะถูกจัดเก็บอยู่บน Local Drive ทั้งหมด ทำให้การเขียนอ่านและประมวลผลข้อมูลทั้งหมดสามารถเกิดขึ้นได้โดยมี Latency ที่น้อยที่สุด ต่างจาก All Flash Array ที่ต้องมี Network Latency เสมอ
  • สนับสนุน Application ได้หลากหลาย (Greater Application Support) – ด้วยคุณลักษณะพิเศษของ Nutanix ที่ถูกออกแบบมาสำหรับงาน Virtualization โดยเฉพาะ ทำให้ Nutanix สามารถรองรับ Application ในรูปแบบที่หลากหลาย และรองรับ I/O Size ที่แตกต่างกันได้ในระบบเดียว

โดยการเปิดตัว NX-9000 นี้ ทำให้ผู้ใช้งาน Nutanix เดิมมีทางเลือกสำหรับการใช้งานระบบงานที่หลากหลายมากขึ้น โดยสามารถนำ Nutanix NX-9000 ติดตั้งใช้งานร่วมกับระบบ Nutanix เดิมที่มีอยู่ เพื่อรองรับ Application ที่ต้องการประสิทธิภาพสูงกว่าเดิมได้อย่างง่ายดาย

nutanix-bezel-650

Metro Availability
สำหรับระบบงานที่ต้องการความทนทาน หรือองค์กรที่ต้องการทำ Disaster Recovery ทาง Nutanix ได้ริเริ่มเป็นผู้ผลิต Hyper-Converged Architecture เจ้าแรกที่รองรับการทำ Disaster Recovery ข้ามสาขา ด้วยการทำ Synchronous Mirroring ตลอดเวลา ทำให้การสำรองข้อมูลข้ามสาขาสามารถเป็นไปได้ในแบบกึ่ง Real-time และมี Recovery Point Objective (RPO) แทบจะเป็นศูนย์ โดยฟีเจอร์ Metro Avaialability นี้ถูกฝังอยู่ใน Software ของ Nutanix ทำให้สามารถติดตั้งใช้งานได้ภายในเวลาเพียงไม่กี่นาที ผ่านทางหน้าจอบริหารจัดการของ Nutanix และยังมีจุดเด่นที่น่าสนใจดังนี้

  • มีความยืดหยุ่นสูง (More Flexibility) – สามารถสำรองข้อมูลข้ามสาขากันได้อย่างอิสระ รองรับการสำรองข้อมูลทั้งแบบ One-to-Many และ Many-to-One และไม่ต้องการฮาร์ดแวร์เสริมแต่อย่างใด
  • จัดการได้ถึงระดับ VM (VM Awareness) – สามารถเลือกการทำ Synchronous เป็นราย Virtual Machine (VM) ได้ ทำให้ลดการใช้ Bandwidth ที่ไม่จำเป็นออกไป และเลือกทำ Disaster Recovery ได้เป็นราย VM
  • รองรับระยะทางไกลกว่าเดิมถึง 2 เท่า (2x Greater Distances Between Sites) – รองรับการสำรองข้อมูลไปยังสาขาที่ห่างออกไปถึง 400 กิโลเมตร ซึ่งไกลกว่าเทคโนโลยีปัจจุบันที่มีอยู่ถึง 2 เท่า

Nutanix-NX9040

โดยราคาเริ่มต้นของ NX-9000 นี้อยู่ที่ 220,000 USD ต่อ 2 node ในขนาด 2U และสำหรับผู้ที่ต้องการใช้งาน Metro Availability นี้ ฟีเจอร์นี้จะพร้อมให้ใช้งานได้ในซอฟต์แวร์ Nutanix Operating System (NOS) รุ่น 4.1 ใน License ระดับ Ultimate Edition

สำหรับผู้ที่สนใจ Nutanix สามารถติดต่อทรูเวฟได้ที่ 02-210-0969

ข้อมูลเพิ่มเติม
Nutanix Tech Spec: https://www.nutanix.com/the-nutanix-solution/tech-specs/
Nutanix Spec Sheet: https://go.nutanix.com/rs/nutanix/images/Nutanix_Spec_Sheet.pdf

ที่มา: https://www.nutanix.com/2014/10/09/nutanix-unveils-industrys-first-all-flash-hyper-converged-platform-and-only-stretch-clustering-capability/

Nutanix ถูกจัดให้อยู่ในกลุ่ม Visionaries ทางด้านระบบ Integrated Systems ใน Gartner Magic Quadrant 2014

gartner2014

เป็นครั้งแรกที่ Gartner ได้ออกรายงานการจัดอันดับทางด้านระบบ Integrated Systems ซึ่งเป็นระบบที่รวม Server, Storage และระบบ Network เข้าด้วยกัน
โดย Nutanix ถูกจัดให้อยู่ในกลุ่มของ Visionaries ซึ่งประเด็นที่ถูกกล่าวถึงเกี่ยวกับ Nutanix ก็คือ Nutanix เป็นผู้นำทางด้านการคิดค้นเทคโนโลยีใหม่ๆ และได้เปลี่ยนรูปแบบการจัดการ, การขยายระบบ และการออกแบบ Data Center ขององค์กรไปในทิศทางใหม่

สำหรับข้อดีของ Nutanix ที่ทางด้าน Gartner กล่าวว่าเป็นจุดแข็ง มีด้วยกันดังนี้

  • สามารถขยายระบบได้ง่ายเมื่อเทียบกับคู่แข่งในตลาด
  • อุปกรณ์ถูกออกแบบมาให้ติดตั้งง่าย
  • สามารถทำงานกับ Hypervisor ได้หลากหลาย ได้แก่ VMware, Hyper-V และ KVM
  • มีลูกค้าแทบทุกกลุ่ม หลายประเทศทั่วโลก
  • ได้รับเสียงตอบรับจากลูกค้าในด้านที่ดี

สามารถดาวน์โหลดรายงานการจัดอันดับฉบับเต็มได้ที่นี่
https://go.nutanix.com/GartnerMQ2014.html

สำหรับผู้ที่สนใจอยากทดสอบอุปกรณ์ Nutanix หรืออยากเป็น Partner ร่วมงานกัน ทางทีมงาน Throughwave Thailand ในฐานะของตัวแทนจำหน่าย Nutanix ยินดีเป็นอย่างยิ่ง โดยท่านสามารถติดต่อมาได้ที่ 02-210-0969 หรือส่งอีเมลล์มาที่ info@throughwave.co.th เพื่อสอบถามข้อมูลและรายละเอียดต่างๆ จากทีมงานวิศวกรโดยตรงได้ทันที

บทสัมภาษณ์การใช้งาน Nutanix จาก คณะแพทยศาสตร์สงขลานครินทร์

– ดาวน์โหลด Case Study –

บริษัท ทรูเวฟ (ประเทศไทย) จำกัด มีโอกาสได้สัมภาษณ์ คุณโกเมน เรืองฤทธิ์ ฝ่ายเทคโนโลยีสารสนเทศ โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ เกี่ยวกับความรู้สึกหลังจากใช้งานผลิตภัณฑ์ Nutanix

p456565แนะนำตัวหน่อยครับ
สวัสดีครับ ผมโกเมน เรืองฤทธิ์ ฝ่ายเทคโนโลยีสารสนเทศ โรงพยาบาลสงขลานครินทร์

คณะแพทยศาสตร์สงขลานครินทร์ เป็นโรงเรียนแพทย์ สังกัดมหาวิทยาลัยลงขลานครินทร์ มีภาระกิจหลักคือสร้างบุคลากรทางการแพทย์ และให้บริการทางการแพทย์ในระดับตติยภูมิ โดยมีโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ ซึ่งเป็นโรงพยาบาลขนาด 853 เตียง  เป็นสถานที่สำหรับฝึกนักศึกษาแพทย์ และเป็นโรงพยาบาลหลักที่พึ่งของประชาชนในภาคใต้

ทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ มีการพัฒนาระบบสารสนเทศโรงพยาบาล สำหรับงานบริการทางการแพทย์ด้วยบุคลากรภายใน และเลือกใช้เทคโนโลยีเพื่อสนับสนุนทางด้านสารสนเทศ โดยเลือกด้วยความเหมาะสม และคุ้มค่า

ทำไมถึงสนใจ Nutanix?
ก่อนหน้านี้เคยได้ทดสอบ VDI บน solution Server + Storage พบความยุ่งยากที่จะต้องบริหารทั้ง Server และ Storage

ทำไมถึงตัดสินใจเลือก Nutanix?
Nutanix เป็น solution ที่ได้รับรางวัลจากผู้ทดสอบชั้นนำ และเป็น solution ที่ไม่ต้องมายุ่งยากกับระบบ SAN แบบเดิม ๆ การบริหารระบบสามารถทำได้บนหน้าจอเดียว  และจากการที่ได้ทดสอบการใช้งานก่อนการสั่งซื้อจริง พบว่าเป็น solution ที่ตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดี

นำ Nutanix ไปใช้ในงานอย่างไร?
Nutanix ได้นำมาเป็นโครงสร้างหลักสำหรับระบบ VDI เพื่อรองรับการทำงานผ่านอุปกรณ์ที่หลากหลายของผู้ใช้งาน ให้สามารถใช้งานได้อย่างสะดวกและปลอดภัย ซึ่งเบื้องต้นได้ติดตั้ง license สำหรับรองรับ user ประมาณ 100 users พร้อมกัน และในอนาคตจะขยายเพิ่มขึ้น เพื่อปรับให้การทำงานของ
user จาก PC ทั่วไป มาใช้ Zero client บน VDI ซึ่งปัจจุบัน มี PC ที่ใช้งานบนระบบสารสนเทศโรงพยาบาลประมาณ 1500 เครื่อง

2014-06-03_151602

ผลลัพธ์ของการใช้งาน Nutanix เป็นอย่างไรบ้าง?
จากการตอบรับของผู้ใช้งาน รู้สึกชื่นชอบกับการที่สามารถใช้งานระบบ VDI ได้อย่างสะดวกและรวดเร็วและสำหรับผู้ดูแลระบบแล้ว ก็สามารถควบคุมการใช้งาน และปรับปรุงขยายการใช้งาน VDI บน Nutanix ได้อย่างง่ายดาย

ความรู้สึกเกี่ยวกับการให้บริการของทรูเวฟ
ทางทรูเวฟ ได้ให้การสนับสนุนทางด้านเทคนิคเป็นอย่างดี และรวดเร็ว ช่วยในการตอบโจทย์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นระหว่างการติดตั้ง และแนะนำ solution เพิ่มเติมได้อย่างเหมาะสมเป็นอย่างดี อีกทั้งบริการก่อนการขายที่นำอุปกรณ์ มาทดสอบใช้งาน และช่วยแนะนำตอบโจทย์ต่าง ๆ เป็นอย่างดี

สุดท้ายนี้ ทางทรูเวฟขอขอบคุณ คุณโกเมน เรืองฤทธิ์ สำหรับความไว้วางใจที่ให้กับทรูเวฟและ Nutanix ขอขอบคุณครับ

ลิ้งค์ที่เกี่ยวข้อง

– ดาวน์โหลด Case Study –

ESG Lab วิจารณ์ Nutanix: ผู้นำของ Virtualization Hardware ยุคใหม่

Enterprise Strategy Group หรือที่รู้จักกันดีในนามของ ESG Lab หนึ่งในค่ายวิพากษ์วิจารณ์ผู้ผลิตระบบ IT ด้านต่างๆ ที่จัดได้ว่าเป็นกลางที่สุด และเจาะลึกทางด้านเทคโนโลยีที่สุดเจ้าหนึ่ง ได้นำ Hardware จาก Nutanix ไปทดสอบการใช้งานจริงเมื่อเดือนสิงหาคม 2011 ที่ผ่านมา และได้เผยแพร่รายงานชิ้นนี้อย่างเปิดเผยที่เว็บไซต์ของ Nutanix ซึ่งผลการวิจารณ์นั้นค่อนข้างน่าสนใจมาก เนื่องจาก Nutanix เองก็ถือได้ว่าเป็นผู้บุกเบิก Hardware ในยุคใหม่ ที่ยุบรวมการทำงานของ Server และ Storage เข้าไว้ด้วยกันแบบเดียวกับที่ Google, Amazon หรือ Facebook ใช้กัน เพื่อมารองรับการทำ Virtualization สำหรับองค์กรต่างๆ โดยเฉพาะ มาลองดูกันครับว่า Nutanix จะถูกวิจารณ์อย่างไรบ้าง

รู้จัก ESG Lab กันก่อน

ESG Lab นั้นจะทำการนำอุปกรณ์ IT จากผู้ผลิตรายต่างๆ ทางด้าน Storage, Data Management และ Information Security มาทำการทดสอบ และเขียนรายงานอย่างเป็นกลาง เพื่อให้ผู้ดูแลระบบได้ทำการศึกษาประกอบการตัดสินใจก่อนเลือกทดสอบอุปกรณ์ต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับอุปกรณ์ที่มีแนวคิดแปลกใหม่ ซึ่งนอกเหนือจากจะเป็นประโยชน์ให้แก่ผู้ดูแลระบบแล้ว ESG Lab ยังให้คำแนะนำกับผู้ผลิตรายต่างๆ ถึงการแข่งขันในตลาด, ฟีเจอร์ที่แนะนำให้ผู้ผลิตทำเพื่อตอบโจทย์ของตลาด รวมถึงยังให้ข้อมูลการสัมภาษณ์เชิงลึกจากผู้ใช้งาน และผู้ทำการทดสอบ ส่งผลให้ผู้ผลิตรายต่างๆ สามารถนำข้อติติงต่างๆ เหล่านี้ไปปรับปรุงผลิตภัณฑ์ของตนเองได้อีกด้วย

เมื่อรู้จักกันคร่าวๆ แล้วว่า ESG เป็นใคร เรามาลองดูผลการทดสอบกันต่อเลยครับ

ความท้าทายของ Server Virtualization

ESG Lab ได้เคยทำการสำรวจมาก่อนแล้วตั้งแต่ปี 2010 ถึงความท้าทายในการทำ Server Virtualization โดยทำการสัมภาษณ์จากกลุ่มตัวอย่าง ว่าต้องการให้ผู้ผลิตแต่ละรายทำการพัฒนาเทคโนโลยีด้านไหนที่สุด ให้ตอบโจทย์กับความต้องการของการใช้งานและแก้ไขปัญหาของ Virtualization ที่มีอยู่

คลิกเพื่อดูภาพขนาดเต็ม

ผลลัพธ์อันดับหนึ่งที่ได้นั้นคือประเด็นของ “การ Integrate ที่ดีขึ้นระหว่าง Server, Storage, Networking และ Virtualization Technology” ซึ่งที่ผ่านมานั้นการทำงานร่วมกันระหว่าง Server, Storage และ Networking ยังมีข้อจำกัดอยู่มากมาย ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยีที่ใช้เชื่อมระหว่าง Server และ Storage อย่างการใช้ Fibre Channel, iSCSI หรือ NAS ซึ่งต่างก็มีข้อดีข้อเสียที่แตกต่างกันไป รวมถึงการวางระบบเครือข่ายให้รองรับกับทั้ง Data และ Storage Networking อีกด้วย ทำให้ในการลงทุน Virtualization นั้นเรียกได้ว่าแทบจะต้องโละ Data Center เดิมที่มีอยู่ทิ้งไปเลย ตั้งแต่ส่วนของ Switch, Server และ Storage โดยค่าลิขสิทธิ์ของ Virtualization เจ้าดังๆ เองก็ถือว่าค่อนข้างสูงอยู่แล้ว

นอกจากปัญหาทางด้านการลงทุนตั้งต้นแล้ว Virtualization ยังนำมาซึ่งความยุ่งยากในการบริหารจัดการ ทำให้ในผลสำรวจของเทคโนโลยีที่ต้องการลำดับที่สองคือ “เพิ่มขีดความสามารถในการบริหารจัดการ Server ให้ดีขึ้น” และลำดับที่สามคือ “มีการฝึกสอนที่มากขึ้น” เนื่องจากการทำ Virtualization ถือได้ว่าเป็นเรื่องที่ใหม่มาก และผู้ดูแลระบบจะต้องทิ้งภาพเก่าๆ ไปค่อนข้างมากในการเปิดรับเทคโนโลยีใหม่นี้ “ความง่าย” จึงถือเป็นอีกประเด็นหนึ่งที่สำคัญอย่างยิ่ง

ถัดจากนั้นคือ “รองรับ Virtual Server ได้มากขึ้นต่อ Physical Server”, “มีการทำ Backup และ Recovery ที่ดีขึ้น” รวมถึง “มีการบริหารจัดการการทำงานในแต่ละองค์ประกอบร่วมกันมากขึ้น” ซึ่งแน่นอนว่าทุกข้อที่กล่าวถึงมานี้ Nutanix ได้จัดการพัฒนาและควบรวมเอาไว้ใน Complete Cluster Appliance เพียงระบบเดียวเล้ว

โซลูชั่นของ Nutanix

Nutanix ได้รวมเอา Server, Hypervisor และ Storage เข้ามาไว้ด้วยกันเป็นระบบ Scale-out Computing Platform ภายใต้ชื่อของ Nutanix Complete Box ที่มีขนาดเพียงแค่ 2U โดยในพื้นที่ 2U นั้น Nutanix ได้รวม Physical Server จำนวนถึง 4 Nodes เข้ามาไว้ด้วยกัน และจัดเก็บ Virtual Machine และ Hypervisor ไว้บนแต่ละ Node

หัวใจสำคัญที่ทำให้ Nutanix สามารถทำงานได้อย่างสมบูรณ์ คือ Nutanix Controller ที่อยู่บน Nutanix แต่ละ Node ที่ทำให้ Local Storage บนแต่ละ Node สามารถทำงานร่วมกันได้เสมือนเป็น SAN Storage ชุดเดียวกัน และรองรับความสามารถสำคัญๆ อย่าง vMotion และ DRS ของ VMware ได้อย่างสมบูรณ์

นอกจากนี้ Nutanix ยังได้เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของแต่ละ Node โดยการนำเทคโนโลยีที่มีความเร็วสูงสุดในเวลานี้อย่าง Fusion-IO และ Solid State Drive (SSD) มาทำ Storage Tiering ร่วมกับ SATA ทำให้ระบบ Virtualization สามารถใช้ประสิทธิภาพในระดับ Fusion-IO ที่เร็วกว่า SAN Storage มาตรฐานประมาณ 5 – 20 เท่าได้ ในพื้นที่มหาศาลระดับของ Enterprise SATA

โดยสรุปแล้ว Nutanix นั้นมี Feature ดังต่อไปนี้

  • Command Center: ระบบ Web-based Management สำหรับบริหารจัดการทั้ง Compute และ Storage ในหน้าจอเดียวกัน
  • Cluster และ Data Replication ที่ทำทั้งในระดับของ Disk Failover และ Node Failover โดยที่ยังไม่ต้องมีลิขสิทธิ์ในระดับสูงของ VMware
  • Heat-Optimized Tiering สำหรับการกำหนด IO สำหรับแต่ละ Image ให้แตกต่างกันตามการใช้งานของข้อมูลแต่ละส่วน
  • สนับสนุนการทำ Snapshot และ Point-in-Time Copies สำหรับการทำ Quick Recovery
  • มีความสามารถในการ Clone VM Image ระดับสูงในลักษณะ Writable ทั้งสำหรับการ Clone Production Server และการสร้าง Virtual Desktop Infrastructure อย่างรวดเร็ว
  • สนับสนุนทุกความสามารถสำคัญของ VMware ไม่ว่าจะเป็น vMotion, Dynamic Resource Scheduler (DRS), High Availability Failover หรือแม้แต่ Server Migration

ซึ่งทาง ESG Lab เองก็ออกมารับประกันถึงความง่ายในการใช้งานของ Nutanix จากการทดสอบจริงเป็นเวลา 2 วันที่ San Jose, California

ความง่ายในการบริหารจัดการ และความสามารถในการจัดการข้อมูลในระดับ Enterprise

ESG Lab ได้เริ่มทำการทดสอบโดยใช้ Nutanix เพียงแค่ 3 Node เพื่อจะได้ทำการเพิ่ม Node เข้าไปได้ในอนาคต โดยเริ่มต้นจากการเปิดตัว Web Browser ขึ้นมาเพื่อเรียกใช้งาน Command Center ก่อน ซึ่งใน Command Center นี้กจะแสดง Nutanix Node โดยแยกในส่วนของการบริหารจัดการ Storage ไว้ทางด้านซ้าย และการบริหารจัดการ Compute เอาไว้ทางด้านขวาดังแสดงในภาพ

หน้าจอบริหารจัดการของ Nutanix คลิกเพื่อดูภาพขนาดเต็ม

จากนั้นทาง ESG Lab ได้ทำการสร้าง vDisk สำหรับเตรียมติดตั้ง Linux ซึ่งก็สามารถทำได้อย่างรวดเร็วในการกรอกฟอร์มเพียง 4 บรรทัด

สามารถสร้าง vDisk ได้อย่างง่ายๆ ในหน้าจอเดียว คลิกเพื่อดูภาพขนาดเต็ม

จากนั้นก็เป็นการทดสอบการ Clone โดยทาง ESG ได้ทำการ Writable Clone ตัว Windows 7 ขึ้นมา 20 ชุด และ Ubuntu อีก 5 ชุด ซึ่งทั้งบน vSphere และ Command Center เองก็เห็นตัว Image เหล่านี้จำนวนเท่ากัน

สามารถ Clone Image จำนวนมากได้อย่างรวดเร็ว คลิกเพื่อดูภาพขนาดเต็ม

จากนั้นทาง ESG Lab ได้ทำการเพิ่ม Nutanix Node เข้าไปอีก 1 Node ทำให้ในหน้าจอของ Command Center มองเห็น Nutanix Node เพิ่มขึ้นจาก 3 Node รวมเป็น 4 Node

จำลองการเพิ่ม Nutanix Node คลิกเพื่อดูภาพขนาดเต็ม

ต่อมา ESG Lab ได้ทำการทดสอบการย้าย Virtual Image ระหว่าง Physical Server 2 Node ซึ่งสามารถทำสำเร็จได้ภายในเวลาไม่ถึง 1 นาที

ผลการทดสอบการย้าย VM ระหว่าง Physical คลิกเพื่อดูภาพขนาดเต็ม

และสำหรับการทดสอบ Dynamic Resource Scheduling ทาง ESG Lab ได้สร้าง Image ที่กิน CPU 100% ขึ้นมา ซึ่งเมื่อ Image นี้ถูกเปิดใช้งาน Image อื่นๆ ที่มีอยู่เดิมก็ทำการย้ายตัวเองไปยัง Physical Server อื่นด้วยการ vMotion หนีไปทันที

ทำงานร่วมกับ VMware Dynamic Resource Scheduler ได้อย่างสวยงาม คลิกเพื่อดูภาพขนาดเต็ม

ส่วนที่เร้าใจที่สุดมักจะตกเป็นเรื่องการทดสอบ High Availability ซึ่งทาง ESG Lab ก็ไม่รอช้า จัดการปิด Physical Node ลงไป 1 ชุด ซึ่งมี 5 Virtual Image ทำงานอยู่ ซึ่งบนหน้าจอของ vCenterก็มองเห็นการ Migrate ของ 5 Image นั้นทันทีเช่นกัน

ทดสอบการทำ HA คลิกเพื่อดูภาพขนาดเต็ม

ถัดมาคือการทดสอบ Snapshot โดยการตรวจสอบหาไฟล์ที่เพิ่งสร้างขึ้นมาใน Image ที่ทำการ Clone ไป และย้อน Snapshot กลับมา ซึ่ง Nutanix ก็ผ่านการทดสอบเหล่านี้อย่างสวยงาม

Snapshot ของ Nutanix คลิกเพื่อดูภาพขนาดเต็ม

ข้อสรุปของ Nutanix

Nutanix มีแนวโน้มที่จะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายสำหรับระบบ Virtualization ขนาดใหญ่ได้เป็นอย่างมาก ทั้งในแง่ของ CapEx และ OpEx เนื่องจากการตัดปัญหาเรื่องการสร้าง SAN Storage Networking ใน Data Center รวมถึงการขยายระบบเพิ่มเติมในอนาคต อีกทั้งยังสามารถบริหารจัดการได้อย่างง่ายดาย โดยสนับสนุนทุกความสามารถสำคัญของ VMware อย่างครบถ้วน

โดยรวมแล้ว Nutanix ถือว่ามีความสามารถในระดับ Enterprise ที่ครอบคลุมรอบด้าน อีกทั้งยังมีประสิทธิภาพสูง, มีความสเถียรสูงสำหรับการทำ Virtualization อีกทั้งยังง่ายต่อการใช้งาน โดยทาง ESG Lab ใช้เวลาเพียงไม่ถึง 30 นาที ในการทำให้ Image แรกบน Nutanix ถูกติดตั้งจนเสร็จและใช้งานได้ (ประหยัดเวลาทั้งการติดตั้งขึ้น Rack, การ Initialize และสร้าง LUN บน SAN Storage, การติดตั้ง VMware และเชื่อม VMware เข้ากับ SAN Storage)

ความเป็นจริงที่น่าคิด

การมาของ Nutanix จะต้องฝ่าฟันกับผู้ผลิต Storage รายต่างๆ อย่างแน่นอน เพราะผู้ผลิต Storage รายต่างๆ โดยเฉพาะรายใหญ่นั้นได้เดินไปคนละเส้นทางกับ Nutanix โดยการพยายามขยายระบบ Storage ให้ใหญ่ขึ้น, มี IO มากขึ้น และต้องใช้ Network ที่รวดเร็วยิ่งขึ้น

แต่ในขณะเดียวกันด้วยเสียงจากผู้ใช้งาน ดูเหมือนแนวคิดของ Nutanix จะมาในทางที่สอดคล้องกับความต้องการของตลาดมากกว่า โดยจากการสำรวจเพิ่มเติม ผู้ใช้งานจำนวนถึง 44% ต้องการความง่ายในการบริหารจัดการร่วมกันระหว่าง Server และ Storage ในขณะที่อีก 37% ต้องการความรวดเร็วในการ Deploy ระบบ และอีก 35% ต้องการให้ค่า Total Cost of Ownership (TCO) คุ้มค่ามากยิ่งขึ้น โดยอีก 33% นั้นต้องการประหยัดเวลาและลดความซับซ้อนในการเชื่อมต่อระหว่าง Server และ Storage นอกจากนี้ผู้ใช้งานยังต้องการแก้ปัญหาประเด็นเรื่องความเข้ากันได้ของ Hardware, ประสิทธิภาพในการทำงาน และบริการที่ดีอีกด้วย

Nutanix ได้ทำให้การใช้งาน Virtualization เป็นไปได้ด้วยความรวดเร็ว, ง่าย, ประหยัดค่าใช้จ่าย อีกทั้งยังแก้ไขปัญหาเรื่องความเข้ากันได้ของ Hardware และผู้ใช้งานเองก็สามารถซื้อบริการง่ายๆ ได้จากผู้ผลิตและตัวแทนจำหน่ายเพียงรายเดียว สำหรับระบบทั้งหมดอีกด้วย และที่เหนืออื่นใดคือการที่ Nutanix รองรับทุกความสามารถที่ผู้ใช้งานต้องการจาก VMware อย่างครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็น vMotion, Dynamic Resource Scheduler และ HA Failover อีกด้วย

ESG ได้แนะนำให้ Nutanix สนับสนุน Citrix XenServer และ Microsoft Hyper-V เพิ่มเติม เพื่อขยายฐานลูกค้าของ Nutanix ต่อไป

สุดท้ายแล้ว เทคโนโลยี Virtualization ก็จะยังคงต้องการการพัฒนาต่อยอดเพิ่มขึ้นไปอีกอย่างต่อเนื่อง วันนี้ Nutanix ได้กลายมาเป็นผู้นำแถวหน้าของ Trend ใหม่ในการยุบรวม Server และ Storage เข้าด้วยกันอย่างสมบูรณ์ และง่ายต่อการใช้งาน  ESG แนะนำว่าถ้าบริษัทไหนต้องการการทำ Virtualization ในระดับใหญ่และซับซ้อน  Nutanix ถือเป็นตัวเลือกเแรกๆ ที่จะตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดี

———-

บทความโดย Throughwave Thailand

ท่านสามารถติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ https://www.throughwave.co.th