ถ้าพูดถึง Enterprise Wireless แบบมี Controller เป็นศูนย์กลาง ที่สามารถบริหารจัดการระบบต่างๆจากศูนย์กลางได้ คอยควบคุมดูแล AP (Access point) แต่ละตัว Wireless ยี่ห้ออื่นๆ จะมีสถาปัตยกรรมแบบ Centralized Architecture กล่าวคือ AP จะส่ง Traffic ไปวิ่งผ่านที่ Controller ตรงกลางก่อนทุกครั้ง เพื่อทำงานด้านความปลอดภัย ตรวจสอบ Traffic ฯลฯ ส่งผลให้เกิดปัญหาคอขวดที่ Controller (Bottle neck) ประสิทธิภาพการทำงานลดน้อยลง และยิ่งสมัยนี้เป็น Wireless N ที่มีปริมาณข้อมูลถึง 300 Mbps บน 1 คลื่นความถี่ ต่อ 1 AP ลองคิดดูว่าถ้ามี AP หลายๆตัว ส่ง Traffic มหาศาลไปที่ Controller พร้อมๆกันจะเกิดอะไรขึ้น
Trapeze มีความสามารถพิเศษที่เรียกว่า Local Switching ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมแบบ Distributed Architecture โดย Trapeze จะเพิ่มความฉลาดให้แก่ AP ให้มีความสามารถมากขึ้น โดย AP แต่ละตัวสามารถทำ Switching ได้เอง ทำงานด้านความปลอดภัยในตัว ส่งผลให้ Traffic ไม่ต้องวิ่งผ่าน Controller ไม่เกิดปัญหาคอขวดแบบ Wireless ยี่ห้ออื่นๆ และทำให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดในการใช้งาน
สามารถสรุปไดอะแกรมการทำงานได้ดังรูปด้านล่าง